การวัดความสอดคล้องกันจะแตกต่างจากการวัดความสัมพันธ์ ( Measure of association ) โดยจะเป็นการศึกษาว่าผู้ประเมิน 2 คน (หรือ k คน) มีความเห็นในทิศทางเดียวกันหรือไม่ในการจัดกลุ่มตัวอย่างลงในกลุ่มต่างๆ (หรือลำดับที่ต่างๆ) ความสอดคล้องกันสูงจะหมายถึงมีความสัมพันธ์กันสูงด้วย แต่ความสัมพันธ์ที่สูงอาจจะไม่มีความสอดคล้องกัน เช่น ถ้าผู้ประเมิน X ประเมินในหน่วยตัวอย่างในระดับที่สูงกว่าผู้ประเมิน Y ในทุกหน่วยตัวอย่าง นั่นคือ ความสอดคล้องกันต่ำ แต่มีความสัมพันธ์กันสูง  
        จะกล่าวถึงสถิติที่ใช้วัดความสอดคล้องกัน 3 ค่าดังต่อไปนี้             Kendall coefficial of concordance , w  
        ใช้เพื่อวัดความสัมพันธ์ของชุดข้อมูล k ชุดที่มีลักษณะลำดับที่ (k sets of ranking) มีประโยชน์เพื่อใช้ในการศึกษาถึงความสอดคล้องกันของผู้ตัดสิน k คน (interjudge) หรือแบบทดสอบ k ชุด ( interest reliability) รวมทั้งสามารถนำนำไปประยุกต์เกี่ยวกับการจัดกลุ่มของตัวแปรต่างๆ (cluster of variable)  
        วิธีการ 
        ให้จัดข้อมูลลงในตาราง ชนิด k x n โดยที่แถวนอน จะหมายถึง k ตัวแปร(หรือผู้ตัดสิน k คน , แบบทดสอบ k แบบ) ที่มีค่าข้อมูลเป็นลำดับที่ 1- N เมื่อ N หมายถึง หน่วยทดสอบ(หรือแบบทดสอบ) ที่ถูกจัดลำดับที่ เช่นผู้บริหาร บริษัทแห่งหนึ่ง 3 ท่าน สัมภาษณ์ผู้สมัครเข้าทำงาน 6 คน สมมติได้ค่าลำดับที่ของผู้สมัครทั้ง 6 ดังตารางต่อไปนี้ 
        
          
             | 
            ผู้สมัครคนที่  | 
             
          
            ผู้บริหาร  | 
            a  | 
            b  | 
            c  | 
            d  | 
            e  | 
            f  | 
           
          
            x  | 
            1  | 
            6  | 
            3  | 
            2  | 
            5  | 
            4  | 
           
          
            y  | 
            1  | 
            5  | 
            6  | 
            4  | 
            2  | 
            3  | 
           
          
            z  | 
            6  | 
            3  | 
            2  | 
            5  | 
            4  | 
            1  | 
           
          
            ผลรวมลำดับที่ Ri  | 
            8  | 
            14  | 
            11  | 
            11  | 
            11  | 
            8  | 
           
          
            ค่าเฉลี่ยลำดับที่    | 
            2.67  | 
            4.67  | 
            3.67  | 
            3.67  | 
            3.67  | 
            2.67  | 
           
                   
          จากตัวอย่างข้างต้น ถ้าใช้สูตรที่ 3 จะได้ค่า w ดังนี้  
          
        ค่า w จะมีค่าในช่วง ( 0-1 ) จะไม่มีค่าเป็นลบ เนื่องจากในกรณีที่มี k ชุดของข้อมูล จะไม่มีชุดข้อมูลใดที่จะสัมพันธ์ทิศทางตรงกันข้ามอย่างสมบูรณ์ได้  
        การทดสอบนัยสำคัญของ w          โดยตั้ง  
        
            : ไม่มีความสัมพันธ์ระหว่าง k ตัวแปร  
            : มีความสัมพันธ์ระหว่าง k ตัวแปร  
                 กรณีตัวอย่างเล็ก เมื่อ k = 3 ถึง 20 และ N = 3 ถึง 7 ใช้ตารางค่าวิกฤติของการแจกแจงของตัว  
        สถิติ w โดยตรง โดยจะปฏิเสธ   เมื่อค่า w จากตัวอย่างมีค่ามากกว่าหรือ เท่ากับค่าวิกฤต ที่ระดับนัยสำคัญ 0.01 หรือ 0.05  
        กรณีตัวอย่างใหญ่ เมื่อ N >7 จะใช้การแจกแจงไคสแควร์ ด้วยสูตรดังนี้  
          = k (N – 1 ) w  
         ถ้าค่า   จากตัวอย่าง มีค่ามากกว่าหรือเท่ากับค่าวิกฤต   ที่องศาความเป็นอิสระ = N – 1 จะปฏิเสธที่ระดับนัยสำคัญหนึ่ง          
        ตัวอย่างที่ 1 จากตัวอย่างข้างต้น ซึ่งได้ w = 0.17 เมื่อ k = 3 N= 6 ใช้ตารางค่าวิกฤตของ w ที่ a =0.05 ได้ค่าวิกฤต w =0.660 ดังนั้น สรุปว่า w ไม่ตกในอาณาเขตวิกฤตจึงยอมรับ   นั่นคือ การให้ลำดับที่ของผู้บริหารทั้ง 3 เป็นอิสระกัน          โปรแกรมคำนวณ 
        _____________________________________________               Kendall coefficient of agreement u for paired comparison or ranking             ในหัวข้อที่ผ่านมา การให้ผู้ตัดสิน(ตัวแปร k ตัว) ให้ลำดับที่ 1- N อาจจะทำได้ยากเมื่อ N ใหญ่ ดังนั้นแทนที่จะให้ลำดับ 1- N อาจให้ผู้ตัดสินลำดับที่ในคู่ของหน่วยทดลอง และให้ผู้ตัดสินเปรียบเทียบในคู่นี่ว่า หน่วยทดลองใดที่ดีกว่า  
        วิธีการ จากหน่วยทดลองขนาด N ให้จับคู่เพื่อเปรียบเทียบ ซึ่งจะได้จำนวนคู่ทั้งหมด N C 2 คู่ เช่นมี N=4 ด้วยหน่วยทดลอง a,b,c,d สามารถ จับคู่ได้ 4 C 2 คู่ = 6 คู่ และให้เปรียบเทียบภายในคู่ สมมติได้ข้อมูลดังนี้  
       
	   คู่         หน่วยทดลองที่ถูกเลือก (Preference)  
        
          (a,b)         a  
          (a,c)         a  
          (a,d)         d  
          (b,c)         b  
          (b,d)         d  
          (c,d)         d  
                 และนำข้อมูลที่ได้มาจัดลงตารางที่เรียกว่า Preference matrix ซึ่งจะสรุปถึงจำนวนครั้งที่แต่ละหน่วยทดลองถูกเลือก (หรือมีลำดับที่นำหน้า) เมื่อเทียบกำหน่วยทดลองอื่น โดยแสดงถึงจำนวนครั้งที่ตัวแปรแถวนอนถูกเลือกเมื่อเปรียบเทียบกับตัวแปรตามแนวตั้งจากตัวอย่างข้างต้นจะได้ดังนี้  
           
        Preference matrix  
        
          
                | 
            a   | 
            b   | 
            c   | 
            d   | 
           
          
            a   | 
            -   | 
            1   | 
            1   | 
            -   | 
           
          
            b   | 
            -   | 
            -   | 
            1   | 
            -   | 
           
          
            c   | 
            -   | 
            -   | 
            -   | 
            -   | 
           
          
            d   | 
            1   | 
            1   | 
            1   | 
            -   | 
           
         
           
             จะพบว่าความถี่ในแนวทะแยงมุมจะไม่มีค่าเสมอของผู้ตัดสิน k คน ถ้ามีการให้ลำดับที่สอดค้ลองกันอย่างสมบูรณ์ในแต่ละคู่ของหน่วยทดลองจะมี N(N-1)/2 เซลล์ที่ได้ความถี่ = k และที่เหลือ N(N-r)/2 เซล จะมีความถี่เป็น 0  
        จากตัวอย่างเดิมที่ผ่านมา ถ้านำข้อมูลมาสร้าง ตาราง Preference matrix จะได้ดังนี้  
          
        
          
             | 
            ผู้สมัครคนที่   | 
             
          
            ผู้บริหาร  | 
            a  | 
            b  | 
            c  | 
            d  | 
            e  | 
            f  | 
           
          
            X  | 
            1  | 
            6  | 
            3  | 
            2  | 
            5  | 
            4  | 
           
          
            Y  | 
            1  | 
            5  | 
            6  | 
            4  | 
            2  | 
            3  | 
           
          
            Z  | 
            6  | 
            3  | 
            2  | 
            5  | 
            4  | 
            1  | 
           
                 
        Preference matrix  
        
          
                | 
            a   | 
            b   | 
            c   | 
            d   | 
            e   | 
            f   | 
           
          
            a   | 
            -   | 
            2   | 
            2   | 
            2   | 
            2   | 
            2   | 
           
          
            b   | 
            1   | 
            -   | 
            1   | 
            1   | 
            1   | 
            0   | 
           
          
            c   | 
            1   | 
            2   | 
            -   | 
            1   | 
            2   | 
            1   | 
           
          
            d   | 
            1   | 
            2   | 
            2   | 
            -   | 
            1   | 
            1   | 
           
          
            e   | 
            1   | 
            2   | 
            1   | 
            2   | 
            -   | 
            1   | 
           
          
            f   | 
            1   | 
            3   | 
            2   | 
            2   | 
            2   | 
            -   | 
           
                   
          
        จากตัวอย่างข้างต้นสรุปได้ว่า ผู้บริหาร 3 คน เมื่อให้ลำดับที่ภายในคู่ จะมีความเห็นที่ไม่สอดคล้องกันค่อนข้างสูง (เนื่องจากค่าต่ำสุด = -1/3 = -0.33 )         การทดสอบนัยสำคัญของค่า U  
          :   = 0 เมื่อ   = ค่าพารามิเตอร์ของค่าสถิติ U  
          :    0  
        หรือ  
          : ไม่มีความสอดคล้องกันของคำตัดสินของผู้ตัดสินเมื่อเปรียบเทียบทีละคู่  
          : มีความสอดคล้องกันของคำตัดสินของผู้ตัดสินเมื่อเปรียบเทียบทีละคู่  
        เมื่อจำนวนผู้ตัดสิน = 6 (k = 6) และมีหน่วยทดลอง = 8 (N = 8) ใช้การแจกแจงของสถิติ U ช่วยตัดสินใจ โดยหาค่าพื้นที่ปลายขวาของโค้งการแจกแจงของ U ของค่า U ที่คำนวณได้ จากตัวอย่าง ซึ่งจะคือค่า p (p-value) พิจารณาค่าว่าค่า p ใหญ่พอหรือไม่ โดยทั่วไปถ้าใหญ่กว่า 0.05 จะยอมรับ   
        ในกรณีที่ k และ N เป็นกรณีอื่นๆ สามารถใช้การแจกแจงของ  Chi'square ประมาณได้ดังสูตร  
        
               โปรแกรมคำนวณ 
        _____________________________________________ 
        หน้าต่อไป>>     |